ซิตี้กรุ๊ป (Citigroup) เผยผลประกอบการไตรมาส 1/2568 ที่แข็งแกร่งกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ โดยได้แรงหนุนสำคัญจากรายได้ในส่วนการซื้อขายตราสารทุนและธุรกิจวาณิชธนกิจที่เติบโตในอัตราเลขสองหลัก อย่างไรก็ดี ซิตี้กรุ๊ปยอมรับว่าภาพรวมเศรษฐกิจโลกกำลังเผชิญกับปัจจัยลบมากขึ้น
สำหรับกำไรต่อหุ้นในไตรมาส 1/68 ขยับขึ้นมาอยู่ที่ 1.96 ดอลลาร์สหรัฐ จากเดิม 1.58 ดอลลาร์สหรัฐในปีก่อนหน้า ซึ่งตัวเลขดังกล่าวสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 1.85 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะเดียวกัน ด้านรายได้รวมก็เพิ่มขึ้น 3% แตะระดับ 2.16 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ สูงกว่าที่วอลล์สตรีทคาดไว้ที่ 2.126 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ
เจน เฟรเซอร์ ซีอีโอซิตี้กรุ๊ป กล่าวในแถลงการณ์ว่า "เรายังคงยืนหยัดเคียงข้างลูกค้าเพื่อช่วยนำทางพวกเขาผ่านช่วงเวลาที่ผันผวนและไม่แน่นอน ท้ายที่สุดแล้ว เมื่อความไม่สมดุลทางการค้าที่หยั่งรากลึกและการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างอื่น ๆ คลี่คลายลง สหรัฐฯ จะยังคงเป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจของโลก และเงินดอลลาร์จะยังคงสถานะสกุลเงินสำรองหลักต่อไป"
ในรายละเอียดผลประกอบการนั้น รายได้จากกลุ่มธุรกิจตลาด (Markets) ทะยานขึ้น 12% เป็น 5.99 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยรายได้จากการซื้อขายหุ้นพุ่งขึ้นถึง 23% เป็น 1.51 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ตามปริมาณการซื้อขายของลูกค้าที่เพิ่มสูงขึ้น ขณะที่รายได้จากธุรกิจตราสารหนี้เติบโต 8% เป็น 4.48 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
นอกจากนี้ รายได้จากกลุ่มธุรกิจธนาคาร (Banking) ขยับขึ้น 5% เป็น 1.94 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยได้อานิสงส์จากการเติบโต 12% ของธุรกิจวาณิชธนกิจ ซึ่งรับประโยชน์เต็มที่จากค่าธรรมเนียมที่ปรึกษาที่หลั่งไหลเข้ามา ส่วนรายได้จากกลุ่มบริหารความมั่งคั่ง (Wealth) ทะยานขึ้นถึง 24% เป็น 2.10 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และกลุ่มธุรกิจที่ดูแลลูกค้าบุคคล มีรายได้เพิ่มขึ้น 2% เป็น 5.23 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ